Get Paid To Draw

วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Dangerous mind; หัวใจกบฎ


เขียนโดย     โหว  เหวินหย่ง

แปลโดย       อนุรักษ์   กิจไพบูลทวี


เมื่ออาจารย์ประจำชั้นตั้งแง่กับนักเรียนชั้นมัธยมสามคนหนึ่ง การลงโทษที่จะพลิกผันชะตาชีวิตของเด็กคนนั้นไปตลอดกาลจึงได้อุบัติขึ้น ผู้ปกครองตลอดจนคนที่ไม่เห็นด้วยต่างหลั่งไหลกันมาชุมนุมคัดค้าน เรื่องราวบานปลายขึ้นทุกที การประท้วง การสูญเสีย ที่มิอาจควบคุมได้ กระแสปฏิวัติอันร้อนระอุได้เริ่มขึ้นแล้ว


สุดยอดนวนิยายเข้มข้น สะเทือนวงการศึกษา!








อาจเป็นเพราะพวกเรายังเด็กเกินไป  จึงตื่นเต้นกับการใช้คำพูดที่ตนเองรับผิดชอบไม่ได้
                                อย่างเช่น  “สู้ๆ นะ”  “พยายามเข้านะ”

หรือประเภท  “ฉันชอบเธอนะ”  “พวกเราจะเป็นกำลังใจให้นะ”
                                “ฉันจะอยู่กับเธอตลอดไปนะ”

               

การสอบปากคำมาถึงตรงนี้ ผมรู้สึกได้ว่าเจ้าหน้าที่สืบสวนเริ่มเบื่อหน่ายแล้ว  ผมไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย  ข้อนี้พวกเราทุกคนก็รู้ๆ กันอยู่  พวกเราเหมือนกับกำลังกินมื้อค่ำที่ไม่อยากจะกินแล้ว  แต่จำเป็นต้องกินให้หมด

                “เธอได้บงการหรือชี้นำให้ใครไปทำลายรถยนต์ของอาจารย์ฝ่ายปกครองหรือเปล่า?”

                “เปล่า”

                “เธอแน่ใจหรือ”

                "ผมจะทำเรื่องอย่างนั้นทำไม”  ผมถามกลับ

                “ทำไมจะทำไม่ได้”

                “ผมกำลังงัดข้ออยู่ที่โรงเรียนผ่านทางสื่อมวลชน จะทำเรื่องโง่ๆ ที่ให้ร้ายกับตัวเองแบบนั้นทำไม”  เจ้าหน้าที่สอบปากคำเอามือเท้าคาง หันไปมองเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งที่กำลังจดคำให้การ  สักครู่ก็ถามว่า  “อาจจะเป็นฝีมือของเพื่อนเธอหรือเปล่า?”

                ผมคิดสักครู่ “ก็เป็นไปได้”

                “เธอคิดว่าอาจจะเป็นใคร”

                ผมลังเลเล็กน้อย  แต่เห็นได้ชัดว่าอาจารย์ห่าวไม่พอใจวิธีการถามคำถามของนายตำรวจ

                “เด็กก็บอกคุณแล้วไม่ใช่หรือว่าเขาไม่ได้ทำ และเขาก็ไม่ได้บงการให้ใครไปทำ  ส่วนเรื่องที่ว่าใครเป็นคนทำพวกคุณก็ต้องไปหาหลักฐานนำสอบเอาเองสิไม่ใช่ว่าในมือไม่มีหลักฐานอะไรเลย คนอื่นเขาว่าเป็นใครคุณก็ว่าตามแล้วเอาไปพูดสั่วๆ กับสื่อมวลชน ทำแบบนั้นคนอื่นเขาต้องเดือดร้อนกันขนาดไหนพวกคุณรู้บ้างหรือเปล่า”  อาจารย์ห่าวตำหนิ  “ถ้าฉันบอกว่าพวกอาจารย์ฝ่ายปกครองจงใจกรีดรถตัวเองเพื่อขอความเห็นใจจากสังคมล่ะ  ก็มีเหตุผลนี่นา  พวกคุณจะลองไปตรวจสอบดูหน่อยไหม  แล้วก็ช่วยบอกสื่อมวลชนให้ด้วย”



                “ผู้ใหญ่บังคับให้เรายอมรับมาตรฐานและแนวคิดของพวกเขา  แต่พวกเขาไม่เคยยอมรับของพวกเรา”

                “ทำไมพวกผู้ใหญ่จึงไม่ยอมรับแนวคิดของพวกน้อง?”

                “เพราะพวกผู้ใหญ่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง  พวกเขากลัว”

                “น้องสลักตัวอักษรคำว่า  โฮโจ  อากิระ  กับ  อาซามิ  จิอากิ  ซึ่งเป็นชื่อตัวเอกทั้งสองคนในการ์ตูนเรื่องสุภาพบุรุษทรชน  มันหมายความว่าอะไร?”

                “ตอนที่โฮโจ  อากิระถูกถามว่าทำไมต้องใช้เงินจากยากูซ่าช่วยเหลืออาซามิเข้าเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  โฮโจ  อากิระตอบว่า  พลิกโฉมญี่ปุ่น”  “พลิกโฉมญี่ปุ่น  หมายความว่ายังไง?”

                “การศึกษาไต้หวันทำให้พวกเราซึ่งเป็นนักเรียนมองไม่เห็นความหวัง  ผู้ปกครองมองไม่เห็นความหวัง  สังคมมองไม่เห็นความหวัง  ประเทศชาติก็มองไม่เห็นความหวัง”  เกาเหว่ยฉีสำรวมรอยยิ้มตลกโปกฮาเอาไว้  พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึมว่า  “ผมอยากเรียกร้องให้ทุกคนช่วยกันพลิกโฉมการศึกษาของไต้หวัน”  ผมสังเกตเห็นนักข่าวหลายคนหัวเราะคิกคัก  เหมือนกับคำพูดของเกาเหว่ยฉีเป็นเรื่องไร้เดียงสาน่าตลก  แต่ผมกลับไม่รู้สึกตลกด้วยแม้แต่น้อย

                “น้องไม่รู้สึกหรือว่าการทำลายรถยนต์ของอาจารย์ที่โรงเรียนเป็นการกระทำที่รุนแรง  พฤติกรรมแบบนี้จะเรียกร้องให้ทุกคนลุกขึ้นมาช่วยกันพลิกโฉมการศึกษาของไต้หวันได้อย่างไร  น้องเสียใจไหมที่ทำอย่างนี้?”

                “ผมโง่เกินไป  ทำให้เรื่องมันเละเทะเข้าไปอีก”  เกาเหว่ยฉีกล่าว  “แต่ผมไม่เสียใจ  เพราะความรุนแรงไม่ใช่จะไม่ดีเสมอไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของมัน  เมื่อตอนที่ดอกเตอร์ซุนยัตเซนล้มล้างรัฐบาลแมนจูก็ต้องใช้ความรุนแรง  ตอนที่พวกเราต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นก็ต้องใช้ความรุนแรง...เหมือนกับที่เขียนเอาไว้ในสุภาพบุรุษทรชน  แสงใดๆ ก็ต้องตามติดด้วยเงา  เพราะฉะนั้น  ถ้าหากเซี่ยเจิ้งเจี๋ยเป็นแสง  ผมก็ยินดีเป็นเงา”

                “น้องเปรียบเทียบทั้งแสงทั้งเงา  พอจะบอกพวกเราได้ไหมว่าน้องได้เห็นอะไรจากตัวเซี่ยเจิ้งเจี๋ย?”

                “พวกเราเห็นแก่ตัว  อ่อนแอและขี้ขลาดเกินไป  ไม่เคยมีนักเรียนมัธยมคนไหนเป็นเหมือนเซี่ยเจิ้งเจี๋ย  ที่ลุกขึ้นมากล่าวความในใจที่ทุกคนอยากจะพูดอต่ไม่กล้าพูด”   เกาเหว่ยฉีครุ่นคิดอย่างจริงจังครู่หนึ่ง  “ผมมองเห็นแสงสว่างจากตัวของเซี่ยเจิ้งเจี๋ย  เพราะเขามีความจริงใจและกล้าหาญ”


                


ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

หรือแวะชมหนังสือเล่มอื่นๆ ได้ที่


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น