นิยายอาหรับราตรีเป็นนิทานที่เล่ากันทั้งในอียิปต์ เปอร์เซีย ตลอดจนอินเดีย แล้วจึงมาแต่งเป็นหนังสือขึ้น ในสมัยที่พวกอาหรับมีอำนาจครอบครองเปอร์เซียและอียิปต์...
ชาร์เรียร์กับชาห์เซนัน
ครั้งเมื่อพระเจ้าเชมเษดดินมูฮำหมัด เสวยราชสมบัติในแคว้นอิหร่าน พระองค์ทรงเดชานุภาพใหญ่ยิ่ง มีอาณาเขตไพศาลไปถึงแดนอินเดียและจีน บ้านเมืองเป็นสุขปราศจากสงคราม ทวยอาณาประชาราษฎร์อยู่เย็นเป็นปกติสุขมาช้านาน พระเจ้าเชมเษดดินมูฮำหมัด มีโอรสสององค์ องค์ใหญ่พระนามว่าชาห์เรียร์ องเล็กว่าชาห์เซนัน เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์แล้วชาห์เรียร์โอรสองค์ใหญ่ได้สืบสันตติวงศ์ดำรงอาณาจักรอิหร่านแทนพระบิดาต่อไป เจ้าชายชาห์เรียร์มีนิสัยน้อมไปในโทสะจริตฉุนเฉียว แต่ยังทรงคุณสมบัติความดีอยู่มาก โปรดปรานรักชาห์เซนันอนุชายิ่งนัก เมื่อพระองค์ได้เสวยราชย์ประเทศอิหร่านแล้ว โปรดให้อนุชาไปครองประเทศตาต ฝ่ายพระเจ้าชาห์เซนันก็ได้ปกครองบ้านเมืองตามเยี่ยงอย่างพระเจ้าทรงธรรมไพร่ฟ้าพลเมืองได้รับความร่มเย็นเป็นสุข ปราศจากความเดือดร้อน เพราะฉะนั้นเดชานุภาพของกษัตริย์ทั้งสองจึงเป็นที่ยำเกรงต่อหมู่ปัจจามิตรและประเทศใหญ่น้อยทั่วไป
ล่วงมาประมาณสิบปี พระเจ้าชาห์เรียร์มีประสงค์ใคร่จะพบอนุชา จึงให้วิเซียร์คืออมาตย์เป็นราชฑูตไปเชิญอนุชามาราชสำนักพระองค์ พระเจ้ากรุงตาตทราบประสงค์พระเชษฐาแล้ว จึงรับสั่งกับวิเซียร์ว่า "เรามีความยินดีเป็นอันมากที่ท่านได้มาถึงนครนี้ ตัวเราเองก็ระลึกถึงพระเชษฐาอยู่เหมือนกัน บัดนี้บ้านเมืองเราก็เป็นสุขสงบราบคาบดีอยู่ เราจะตระเตรียมเดินทางไปนครอิหร่านภายในกำหนดสิบราตรี ท่านจงพักผ่อนเสียให้สบายก่อนเถิด"
ครั้นถึงกำหนดพระเจ้ากรุงตาตเสด็จออกจากพระราชวังมาตั้งกระโจมพักแรมอยู่ใกล้กับกระโจมราชฑูตกรุงอิหร่าน พระองค์ประทับตรัสประภาษกับราชฑูตอยู่จนเวลาเที่ยงคืน แล้วเสด็จกลับเข้าในพระราชวังแต่ลำพัง เพื่อจะลามเหสีที่โปรดอีกสักครั้ง เมื่อเสด็จถึงที่ข้างใน ก็ตรงเข้าสู่ห้องมเหสีโดยพลัน ดำริว่าจะได้เห็นนางดีใจด้วยความพิสมัยในพระองค์ แต่การณ์ได้หาเป็นดังที่ทรงคาดหมายไม่ กลับเห็นนางเข้าอยู่ในวงแขนของทาสกายกำยำกำลังกอกกระหวัด พลอดสนทนากันอยู่บนพระแท่น ทั้งนี้ พระองค์แทบจะมิเชื่อพระเนตรของพระองค์เอง พลางตรัสว่า "เออหนอ นางที่รัก เรายังมิทันจะจากเมืองสมาคันท์ไป ก็มาเป็นได้ถึงเพียงนี้ ทำความอดสูให้ราชสกุลเรายิ่งนัก" ตรัสแล้วก็ชักพระแสงดาบฟันคอทั้งสองขาดกลิ้งอยู่กับที่ด้วยความโกรธ แล้วเสด็จจากพระนคร เข้าป่าพร้อมด้วยข้าราชบริพาร มุ่งตรงไปยังกรุงอิหร่าน
เมื่อเสด็จมาใกล้กรุ่งอิหร่าน สุลต่านชาห์เรียร์พร้อมด้วยหมู่ราชเสกามาตย์ เสด็จออกมาต้อนรับอนุชาด้วยความยินดี พระเจ้าชาห์เรียร์เสด็จเข้าใกล้ก็ตรงเข้าสวมกอดอนุชาไว้ พลางตรัสปราศัยถามถึงความทุกข์สุขฉันพี่น้อง แล้วพากันเสด็จเข้าพระนคร พระเจ้ากรุงตาตมีทุกข์ถึงมเหสียิ่งนัก หาบันเทิงพระทัยไม่ พระพักต์หม่นหมองไม่เป็นอันเสวยและบรรทม ฝ่ายพระเจ้าชาห์เรียร์ก็มิรู้ที่จะระงับความเศร้าโศกของอนุชาได้ด้วยประการไรถึงแม้พระองค์จะพยายามทุกอย่างที่จะให้อนุชามีความบันเทิงรื่นเริงก็ดี แต่พระเจ้าชาห์เซนันก็หารู้สึกสนุกสนานด้วยไม่ ดูซ้ำจะเพิ่มความระทมทุกข์ถึงมเหสีผู้เป็นที่รักยิ่งขึ้น
อยู่มาวันหนึ่ง พระเจ้าชาห์เรียร์เสด็จออกประพาสป่าล่าเนื้อ เป็นหนทางไกลจากพระนครราวสองราตรี ตรัสชวนอนุชาไปด้วย พระเจ้าชาห์เซนันทูลบิดพลิ้วว่าประชวรมิสามารถจะโดยเสด็จได้จึงประทับอยู่ในพระราชวังทั้งนี้ก็เพราะเป็นทุกข์ไม่สบายพระทัย พระที่นั่งที่พระเจ้าชาห์เซนันประทับอยู่นั้นตรงข้ามกับตำหนักมเหสีพระเจ้ากรุงอิหร่าน ในระหว่างกลางมีอุทยานอันตระการด้วยพรรณไม้ต่างๆ น่าชื่นชม เสียงนกแซ่ซ้องร้องขรมด้วยเป็นเวลาเย็น ลมชวยพวยพุ่งกลิ่นดอกไม้เข้ามาทางพระแกลหอมตลบ ขณะเมื่อพระเจ้าชาห์เซนันประทับอยู่ริมบานพระแกล ผินพักต์ไปทางอุทยานเพื่อทอดพระเนตรสิ่งต่างๆ ให้สร่างทุกข์ระทมที่คลุ้มคลั่งถึงพระมเหสี พอทอดพระเนตรไปทางพรรณพฤกษาน้อยใหญ่เพลินอยู่ ทันใดนั้น ทวารตำหนักมเหสีด้านอุทยานพร้อมด้วยนางกำนัลในยี่สิบนาง สุลนาตาสำคัญใจว่าพระเจ้าชาห์เซนันโดยเสด็จประพาสป่าล่าเนื้อกับพระสวามี นึกอุ่นใจว่าไม่มีใครจะล่วงรู้เห็นความลับ จึงพากันเล่นคะนองอยู่ใกล้พระที่นั่งที่พระเจ้าชาห์เซนันท์ประทับอยู่ ลำดับนั้น เหตุการณ์สำคัญได้เกิดขึ้นต่อพระเนตรพระเจ้าชาห์เซนัน พระองค์แอบทอดพระเนตรเห็นความเป็นไปสิ้นทุกประการ ทีแรกคิดว่าเป็นนางกำนัลในทั้งยี่สิบ แต่พอเปลื้องเครื่องแต่งกายและผ้าคลุมออกแล้ว กลายเป็นชายสิบหญิงสิบครบคู่กันพอดี ฝ่ายสุลตานาเงยพักต์ขึ้นไปทางต้นไม้ใหญ่ พลางตบหัตถ์เรียกว่า มะสูด มะสูด ทันใดนั้นชายดำร่างกำยำล่ำสันต์ก็ไต่ต้นไม้ลงมาหานาง ต่อจากนั้นไปสุลตานาพร้อมด้วยกำนัลในทั้งสิบเข้าจับคู่กับชู้รัก พากันเล่นคะนองหยอดเอินกันอยู่ แล้วก็เข้าแฝงสุมทุมพุ่มไม้เป็นหมู่ๆ สักครู่ใหญ่ชายผู้ชื่อว่ามะสูด พร้อมทั้งชายชู้ของนางกำนัลทั้งสิบก็ผลุดออกทางประตูสวนโดยด่วน รีบปีนกำแพงพระราชวังไป
หนังสือมือสอง ขนาด 5 X 7 นิ้ว จำนวน 680 หน้า
แวะชมเล่มอื่นๆ ได้ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น