Get Paid To Draw

วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ลับสุดยอด ; ชาร์วี

          กลับมาอยู่ญี่ปุ่น นนทรีรับรู้เรื่องส่วนตัวของเคนทีละเรื่องโดยไม่มีการซักถามอะไรกัน อย่างเช่นวันหนึ่ง หลังจากกลับมาได้ไม่นานเคนก็ชวนขึ้นมาอย่างไม่มีพิธีรีตองว่า ...คุณนนครับ ไปหาคุณแม่ผมที่คามาคุระกันไหม ท่านทำข้าวซูชิของโปรดไว้ฉลองการคืนถิ่นของผม.....ซึ่งในวันนั้นเธอก็ได้พบกับคุณยูกิโกะ สุภาพสตรีผู้เคยผ่านชีวิตภริยานักการฑูตมาก่อน  จากการสนทนากันอย่างถูกรสนิยมและอัธยาศัยของกันและกันตลอดค่ำวันนั้น นนทรีรู้เพิ่มขึ้นอีกอย่างเดียวว่า เคน มีพี่ชายอยู่คนหนึ่งเป็นนักธุรกิจตั้งครอบครัวอยู่ที่นครนิวยอร์ค นานทีปีหนจึงจะพาภริยาและลูกครึ่งชายหญิงมาเยี่ยมคุณย่า มีเรื่องหนึ่งที่นนทรีเก็บความสงสัยใคร่รู้ไว้นานว่าจะถามเคนแต่ก็หาโอกาสเหมาะไม่ได้สักที นั่นก็คือเรื่องที่ว่าเขามีปัญหาขัดแย้งอะไรมากมายนักกับ "บอสส์" ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของขบวนการสืบสวนใต้ดินทั้งในส่วนปฏิบัติการอย่างเปิดเผย ในหน่วยสืบสวนพิเศษ และในส่วนลับสุดยอดลึกลงไปในระดับที่มีผู้รู้เพียงไม่กี่คน ถึงขนาดเข้าหน้ากันไม่ติด

          เคนพยายามหลีเกลี่ยงการเข้าพบ "บอสส์" ในทุกกรณี งานทุกงานเธอเป็นคนรับมาและเป็นคนนำผลงานไปเสนอ เคนจะทำงานที่ได้รับมอบหมายมาอย่างตั้งอกตั้งใจทุกเรื่อง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องยากเย็นสักเพียงไรก็ไม่พ้นความสามารถของเคนไปได้สักเรื่องเดียว แต่ที่เคนทำอย่างสนุกมากก็คืองานสารพัดบริการของเขา ทำราวกับจะยึดเป็นอาชีพจริงๆ เลยทีเดียว

          วันหนึ่งนนทรีก็ได้รับคำตอบบางส่วนโดยไม่ต้องถามเขาตรงๆ เมื่อเคนวางหูโทรศัพท์แล้วหันมายิ้มกับเธออย่างกระปรี้กระเปร่าชวนว่า

          "เสาร์อาทิตย์นี้ไปเที่ยวดิสนีย์รีสอร์ตกันไหมครับ คุณ"มาริ"วานให้ช่วยพา"ชุน-จัง"ไปฉลองวันเิกิด"

          พอเห็นนนทรีทำหน้าเหรอเขาก็หัวเราะร่าเริงแล้วอธิบายง่ายๆ ว่า

          "คุณมาริเป็นภริยาใหม่ของพ่อผม ส่วนชุน-จังคอลูกชายของเธอและเป็นน้องของผมครับ"

          นนทรีจำได้ว่าการเที่ยวดิสนีย์สองวันหนึ่งคืนครั้งนั้นสนุกที่สุดกันทั้งสามคน เคนเป็นคนเลือกพักในโรงแรมที่ตกแต่งทุกตารางนิ้วเป็นถ้ำและเรือโจรสลัด สร้างสรรอย่างสมจริงจนแขกที่เข้าพักต่างสำคัญผิดคิดว่าตนเองเป็นโจรสลัดคนหนึ่งเป็นที่ถูกใจอย่างสุดๆ ของชุน-จัง น้องชายวัย 11 ปีของเคน แกกรี๊ดกร๊าด ซุกซน โลดโผนเต็มที่ จนเกือบไม่ได้หลับได้นอน จนค่ำวันรุ่งขึ้นหลังจากการท่องเที่ยวเล่นจบลง นนทรีจึงได้รู้ว่าใครเป็นใคร

          "เคน-นี่ซัง.....คุณพ่อมารับพอดีเลยครับ"

          นนทรีอ้าปากค้าง เมื่อเห็นคนขับกับสตรีที่นั่งอยู่เคียงข้างถนัดตา เธอส่งสายตาเป็นคำถามไปที่เคน เขาไม่พูดว่ากระไรได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ เหลียวซ้ายแลขวาเหมือนหาทางหลบหนีแต่ไม่ทัน ค่ำนั้นเขาจึงต้องร่วมรับประทานอาหารชุดวันเกิดโจรสลัดกับครอบครัวน้องชายอย่างไม่มีทางหลบเลี่ยง นนทรีเตรียมสนุกด้วยเต็มที่ แต่ก็ต้องเซ็งไปกับสีหน้าเฉยเมย และอาการถามคำตอบคำของเคนที่แสดงให้เห็นว่าหมดสนุกอย่างสิ้นเชิง นนทรีจึงได้แค่คิดอย่างหมายมาดว่าวันหลังจะหาโอกาสมาใหม่ ในบรรยากาศที่ดีกว่านี้

          "คุณนนครับ"

          เสียงเรียกและเสียงกระจกถูกเคาะเบาไ ปลุกนนทรีขึ้นจากอาการเคลิ้มหลับ เธอปิดปากหาวพลางเอื้อมมือไปปลดล็อกประตูรถให้เคนเปิดขึ้นมานั่งที่ข้างคนขับ

         "ไปเสียนานเชียวเคน นนคิดอะไรๆ เพลินเลยเผลอหลับไป"

          "เสียเวลานานไปหน่อยกว่าจะไปเจรจาเอาตุวคูมิกลับออกมาได้ แต่ต้องยอมให้เขาริบปืนไป"

          "หารู้ไม่ว่ามันมีอีกตั้งหลายกระบอก"

          นนทรีหัวเราะอย่างขบขัน แล้วก็อดถามถึงคนสำคัญไม่ได้

          "ก็อย่างที่เขาพูดกับคุณนนนั่นแหละ จะเอาฟิล์มม้วนนั้นให้ได้ก็เลยเถียงกันนิดหน่อย"

          การเถียงกันไม่ได้นิดหน่อยอย่างที่เขาบอก ผู้บริหารระดับสูงสุดของสถาบันรักษาความมั่นคงปลอดภัยแห่งชาติกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน เมื่อท่านเห็นภาพจากจอมอนิเตอร์ว่าใครกำลังกดลิฟท์ลับพิเศษขึ้นมาความเร็วของลิฟท์ไม่ได้ให้เวลาท่านเตรียมตัวรับสถานการณ์แต่อย่างใด เลยต้องตั้งรับอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่มีกองเอกสารวางซ้อนอยู่สองข้าง พอออกจากลิฟท์ได้ นักสืบหนุ่มปราดเข้ามาที่เจ้าของห้องด้วยกริยาของเสือที่กระโจนตะครุบเหยื่อทำตาวาวอย่างเอาเรื่องแน่ๆ

          การเคลื่อนไหวอย่างลืมตัวโดยไม่ประมาณพลกำลังที่ลดถอยลงจากเกณฑ์ปกติจนเกือบถึงขีดต่ำสุด ทำเอาเจ้าโทสะหน้ามืด เกือบเสียหลักหากว่ามือข้างที่ใช้งานได้คว้ายึดขอบโต๊ะตัวใหญ่ไว้ไม่ทัน เขาสะบัดหัวไปมาคิดว่ามันจะช่วยปรับภาพมัวๆ ที่เคลื่อนไหวทับซ้อนกันให้ชัดขึ้นเป็นภาพเดียวได้แต่ก็ไม่สำเร็จ ในที่สุดก็เลยต้องโผไปทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งของโต๊ะประชุม หงายหน้าพาดคอกับพนักหลับตาแล้วหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้ง.....มันช่วยให้ดีขึ้นนิดหนึ่ง แต่กลับมีอาการคลื่นเหียนตามขึ้้นมาริ้วๆ ความเย็นที่หน้าผาก และกลิ่นหอมซ่าๆ ที่ถูกสูดตามลมหายใจลึกๆ เข้าไปนั้น ช่วยเขาไม่ให้ทำอะไรเลอะเทอะออกมา แต่พอรู้สึกตัวว่าใครกำลังพยาบาลเขาอยู่โทสะก็พลุ่งขึ้นมาอีก เขาปัดมือที่กำลังใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นซับเหงื่อที่หน้าผากออกไปให้พ้น ลืมตาจ้องมองหน้าของอีกฝ่ายด้วยดวงตาวาววามอย่างคนโกรธจัดเช่นเดิม ไม่ไยดีกับสายตาแสดงความเอื้ออาทรอย่างเหลือหลายของอีกฝ่ายแต่คราวนี้เขาไม่กล้าลุกขึ้นทำท่าอาละวาดอีก

          "คุณ.....ท่านผู้บัญชาการจะเอาอะไรกับผม"
          
          เคนเริ่มหาเรื่อง เพราะรูปการทำให้เขาแน่ใจว่าท่านผู้นี้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายแรงที่เกือบทำให้เขากลายเป็นคนพิการ

          "แกหมายความว่ายังไง"

          ท่านโยนผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นในมือทิ้งลงบนโต๊ะประชุม ถอยไปยืนพิงโต๊ะทำงานแล้วมองมาที่มือข้างซ้ายของนักสืบหนุ่มเลือดร้อน การที่เจ้าตุววางมันไว้นิ่งๆ บนโต๊ะ แสดงว่าอาการคงจะหนักไม่น้อย

          "รู้อยู่แก่ใจแล้วยังจะมาถาม ไอ้ฟิล์มบ้าๆ นั่น่ะผมไม่เก็บเอาไว้ทำอะไรหรอก ไม่ถึงกับต้องส่งคนมาขู่เข็นทุบตีผมก็จะให้อยู่แล้ว"

          "ถ้าแกหมายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับแกเมื่อบ่ายนี้ล่ะก็ ชั้นได้รับรายงานรายละเอียดทั้งหมดจากทางนครบาลแล้ว และก็เพิ่งแถลงข่าวจบ กลับมานี่เอง"

          "แถลงข่าว.....ข่าวอะไร..........นี่ท่านจะมาไม้ไหน ผมตามไม่ทัน"

          ทีนี้นักสืบหนุ่มมีท่าทางงงงันจริงๆ เขายันตัวขึ้นนั่งตัวตรง ลืมอาการคลื่นเหียนวิงเวียนเมื่อครู่ก่อน

          "คงทันออกข่าวสามทุ่ม นี่ก็กำลังจะกลับไปคอยดูที่บ้านก็พอดีที่แกมา งั้นคอยดูพร้อมกันที่นี่เลยก็แล้วกัน"

          "ไม่..........ผมต้องการทราบเดี๋ยวนี้ว่ามันเรื่องอะไรกัน!!!!!"


นิยายนักสืบยอดรักจากแฟ้มสืบสวนลับสุดยอด ของ ชาห์วี

มือสองสภาพดี 90% ขนาด 6X8 นิ้ว จำนวน 507 หน้า



แวะชมเล่มอื่นได้ที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น