"เอลเลน ผมลีโอนะ ผมมีอะไรจะถามคุณ โทรฯ กลับผมด้วย"
ข้อความจากลีโอนานแค่สี่วินาทีหรอสิบห้าำยังรบกวนจิตใจ บอกได้คำเดียวว่าชวนงงหรือหงุดหงิดยิ่งกว่าเก่า หลังจากยืนอยู่ตรงอ่างล้างหน้าและมองเหม่ออยู่นานหลายนาที ฉันก็ฟังข้อความอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ีได้พลาดอะไรไป ดังนั้นฉันจึงกดปุ่มลบทิ้งและพูดกับตัวเองดังๆ ว่าอย่าหวังเลยเพื่อน
ถ้าลีโอคิดว่าเขาสามารถปล่อยวันเวลาพวกนั้นผ่านไปได้ และจะทำเป็นโทรฯ มาถามโน่นนี่เหมือนวันเก่าโดยหวังว่าฉันจะมือไม้สั่นรีบตะกายโทรฯ กลับไปหาเขาละก็ เขาก็คงต้องคิดใหม่แล้วล่ะ ถ้าพูดในแง่ดีคือเขาแค่ล้ำเส้นไปนิด ถ้าเป็นแง่ร้ายก็คือเขาจงใจจะจูงจมูกฉัน
ฉันแปรงฟันด้วยความยัวะ ก่อนจะค่อยๆ ทาลิปติกสีชมพูกุหลาบลงบนริมฝีปากล่างอันอวบอิ่มและริมฝีปากบนที่ออกจะบางกว่า และซับด้วยทิสชู แต่พอคิดว่าซับออกมากไปก็เลยทาใหม่ ก่อนจะตบท้ายด้วยกลอสใสไม่มีสีจากนั้นก็ปัดแก้ม หน้าผาก และคางด้วยบรอนเซอร์ กรีดอายไลน์เนอร์ด้วยดินสอถ่านสีเข้ม ปัดมาสคาราและแต้มซีลเลอร์ตรงใต้ตาเล็กน้อย แค่นี้ฉันก็พร้อมจะไปแล้ว ฉันสบตาตัวเองในกระจกและยิ้มน้อยๆ ฉันสวยแล้ว ถึงแม้ทุกคนจะสวยเหมือนกันหมดเวลาส้องกระจกในห้องน้ำที่มีแสงสลัวของมาร์โกต์ก็ตาม มาร์โกตก็เหมือนแม่เธอ คือไม่ชอบใช้แสงไฟนีออน
ฉันเปิดประตูที่ติดกับห้องพักแขก บอกตัวเองว่าการฟังข้อความจากลีโอกับการโทรฯ กลับไปหาลีโอมันคนละเรื่องกัน ถ้าฉันจะโทรฯ ก็คงไม่โทรฯ กลับหาเขาเร็วๆ นี้เด็ดขาด ฉันคุกเข่าลงหน้ากระเป๋าเสื้อผ้าแล้วรื้อหากระเป๋าหนีบหนังงูใบเล็กที่จำได้ว่าเอาใส่มาด้วยวินาทีสุดท้าย เป็นกระเป๋าที่สเตลลาให้ฉันเมื่อคริสต์มาสที่แล้ว ฉันรู้ว่าเธอจะปลื้มมากถ้าเห็นฉันเอามาใช้ เธอเป็นคนเลือกของขวัญได้ดีและก็ใจป้ำ แต่ฉันก็ดูออกจากของขวัญที่เธอให้ว่าเธออยากจะให้ฉันเป็นเหมือนลูกสาวเธอกว่านี้สักนิด พูดอีกอย่างคือเป็นผู้หญิงที่มีสัญชาตญาณว่าต้องเปลี่ยนกระเป๋าถือก่อนออกไปเที่ยวตอนกลางคืน
ฉันโยกลิปกลอส กระจกบานเล็ก และลูกอมดับกลิ่นปากใส่กระเป๋าหนีบ มันยังมีที่เหลืออยู่หน่อยฉันเลยใส่มือถือลงไปด้วย เผื่อต้องใช้ ใช้ทำอะไรฉันก็ไม่แน่ใจ แต่การเตรียมพร้อมก็ย่อมดีกว่าไม่ใช่หรือ จากนั้นก็สวมรองเท้าส้นเตี้ยเล็กแหลมเดินลงบันไดไปหามาร์โกต์กับคนอื่นที่รวมตัวกันอยู่ตรงเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ในครัว กำลังดื่มไวน์ ชิมชีส และสวาปามมะกอกยัดไส้ ฉันมองแอนดีกับมาร์โกต์ที่ยืนอยู่ข้างกัน และกำลังหัวเราะเว็บบ์ที่ทำท่าล้อเลียนลูกค้าอยู่ และรู้สึกว่าทั้งคู่ดูคล้ายกันมากเป็นพิเศษ นอกจากใบหน้ารูปหัวใจ ดวงตาสีฟ้ากลมโตที่มีระยะห่างกันพอดีแล้ว ทั้งคู่ยังมีรัศมีแห่งความสุขเหมือนกันในแบบคนที่ใช้ชีวิตไปตามความเป็นจริง
สีหน้าแอนดีสดใสขึ้นอีกเมื่อเห็นฉัน
"เฮ้ ที่รัก" เขาพูดแล้วลุกขึ้นจูบแก้มฉันก่อนจะกระซิบที่ข้างหู "ตัวคุณหอมจัง"
เผอิญวันนี้ฉันทาโลชั่นกลิ่นบลูเบอร์รีวนิลา ซึ่งเป็นของขวัญจากสเตลลาอีกเช่นกัน "ขอบคุณค่ะที่รัก" ฉันกระซิบตอบ รู้สึกวูบด้วยความรู้สึกผิดต่อสามีและแม่ของเขา
ฉันบอกตัวเองว่าฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ลีโอต่างหากที่ผิด เขาทำให้ฉันจนมุม ทำให้ฉันต้องหลอกคนที่ฉันรัก ใช่ เป็นแค่ความลับเล็กๆ แต่ก็ยังเป็นความลับ ซึ่งจะต้องลับมากขึ้นเป็นทวีคูณหากฉันโทรฯ กลับไป ดังนั้นฉันจะไม่ทำฉันจะไม่โทรฯ กลับหาเขา....
ดูเพิ่มเติม
Love the one you're withถ้าลีโอคิดว่าเขาสามารถปล่อยวันเวลาพวกนั้นผ่านไปได้ และจะทำเป็นโทรฯ มาถามโน่นนี่เหมือนวันเก่าโดยหวังว่าฉันจะมือไม้สั่นรีบตะกายโทรฯ กลับไปหาเขาละก็ เขาก็คงต้องคิดใหม่แล้วล่ะ ถ้าพูดในแง่ดีคือเขาแค่ล้ำเส้นไปนิด ถ้าเป็นแง่ร้ายก็คือเขาจงใจจะจูงจมูกฉัน
ฉันแปรงฟันด้วยความยัวะ ก่อนจะค่อยๆ ทาลิปติกสีชมพูกุหลาบลงบนริมฝีปากล่างอันอวบอิ่มและริมฝีปากบนที่ออกจะบางกว่า และซับด้วยทิสชู แต่พอคิดว่าซับออกมากไปก็เลยทาใหม่ ก่อนจะตบท้ายด้วยกลอสใสไม่มีสีจากนั้นก็ปัดแก้ม หน้าผาก และคางด้วยบรอนเซอร์ กรีดอายไลน์เนอร์ด้วยดินสอถ่านสีเข้ม ปัดมาสคาราและแต้มซีลเลอร์ตรงใต้ตาเล็กน้อย แค่นี้ฉันก็พร้อมจะไปแล้ว ฉันสบตาตัวเองในกระจกและยิ้มน้อยๆ ฉันสวยแล้ว ถึงแม้ทุกคนจะสวยเหมือนกันหมดเวลาส้องกระจกในห้องน้ำที่มีแสงสลัวของมาร์โกต์ก็ตาม มาร์โกตก็เหมือนแม่เธอ คือไม่ชอบใช้แสงไฟนีออน
ฉันเปิดประตูที่ติดกับห้องพักแขก บอกตัวเองว่าการฟังข้อความจากลีโอกับการโทรฯ กลับไปหาลีโอมันคนละเรื่องกัน ถ้าฉันจะโทรฯ ก็คงไม่โทรฯ กลับหาเขาเร็วๆ นี้เด็ดขาด ฉันคุกเข่าลงหน้ากระเป๋าเสื้อผ้าแล้วรื้อหากระเป๋าหนีบหนังงูใบเล็กที่จำได้ว่าเอาใส่มาด้วยวินาทีสุดท้าย เป็นกระเป๋าที่สเตลลาให้ฉันเมื่อคริสต์มาสที่แล้ว ฉันรู้ว่าเธอจะปลื้มมากถ้าเห็นฉันเอามาใช้ เธอเป็นคนเลือกของขวัญได้ดีและก็ใจป้ำ แต่ฉันก็ดูออกจากของขวัญที่เธอให้ว่าเธออยากจะให้ฉันเป็นเหมือนลูกสาวเธอกว่านี้สักนิด พูดอีกอย่างคือเป็นผู้หญิงที่มีสัญชาตญาณว่าต้องเปลี่ยนกระเป๋าถือก่อนออกไปเที่ยวตอนกลางคืน
ฉันโยกลิปกลอส กระจกบานเล็ก และลูกอมดับกลิ่นปากใส่กระเป๋าหนีบ มันยังมีที่เหลืออยู่หน่อยฉันเลยใส่มือถือลงไปด้วย เผื่อต้องใช้ ใช้ทำอะไรฉันก็ไม่แน่ใจ แต่การเตรียมพร้อมก็ย่อมดีกว่าไม่ใช่หรือ จากนั้นก็สวมรองเท้าส้นเตี้ยเล็กแหลมเดินลงบันไดไปหามาร์โกต์กับคนอื่นที่รวมตัวกันอยู่ตรงเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ในครัว กำลังดื่มไวน์ ชิมชีส และสวาปามมะกอกยัดไส้ ฉันมองแอนดีกับมาร์โกต์ที่ยืนอยู่ข้างกัน และกำลังหัวเราะเว็บบ์ที่ทำท่าล้อเลียนลูกค้าอยู่ และรู้สึกว่าทั้งคู่ดูคล้ายกันมากเป็นพิเศษ นอกจากใบหน้ารูปหัวใจ ดวงตาสีฟ้ากลมโตที่มีระยะห่างกันพอดีแล้ว ทั้งคู่ยังมีรัศมีแห่งความสุขเหมือนกันในแบบคนที่ใช้ชีวิตไปตามความเป็นจริง
สีหน้าแอนดีสดใสขึ้นอีกเมื่อเห็นฉัน
"เฮ้ ที่รัก" เขาพูดแล้วลุกขึ้นจูบแก้มฉันก่อนจะกระซิบที่ข้างหู "ตัวคุณหอมจัง"
เผอิญวันนี้ฉันทาโลชั่นกลิ่นบลูเบอร์รีวนิลา ซึ่งเป็นของขวัญจากสเตลลาอีกเช่นกัน "ขอบคุณค่ะที่รัก" ฉันกระซิบตอบ รู้สึกวูบด้วยความรู้สึกผิดต่อสามีและแม่ของเขา
ฉันบอกตัวเองว่าฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ลีโอต่างหากที่ผิด เขาทำให้ฉันจนมุม ทำให้ฉันต้องหลอกคนที่ฉันรัก ใช่ เป็นแค่ความลับเล็กๆ แต่ก็ยังเป็นความลับ ซึ่งจะต้องลับมากขึ้นเป็นทวีคูณหากฉันโทรฯ กลับไป ดังนั้นฉันจะไม่ทำฉันจะไม่โทรฯ กลับหาเขา....
ดูเพิ่มเติม
แวะชมเล่มอื่นๆ ได้ที่
books~4~you ร้านหนังสือมือสองของคนช่างอ่าน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น