Get Paid To Draw

วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ทะเลน้ำตา;นิดา

ดวงตาของเอ๊ดวินาพร่าพรายไปเป็นครู่เมื่อมองไม่เห็นชื่อ 'อเล็กซิส วินฟิลด์' อยู่ในบัญชีรายชื่อที่พยาบาลส่งให้ดู

"คุณแน่ใจหรือคะว่าเป็นตุ๊กตาตัวเดียวกันกับของน้องสาวของคุณ..." พยาบาลถามซ้ำอย่างสนใจจริงจัง

"แน่ใจค่ะ...ฉันเย็บเสื้อตัวนี้ให้มันเอง"

"เป็นไปได้ไหมว่าแกจะยกให้เด็กคนอื่น...หรือไม่ก็ถูกแย่งไป..." เอ๊ดวินาพยักหน้าเงียบๆ สักอึดใจหนึ่งหล่อนจึงตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

"ก็อาจจะเป็นแบบนั้น...แต่ว่า...ในเรือลำนี้มีเด็กที่ไม่มีพ่อแม่ผู้ปกครองมั่งไหมคะ...เด็กที่ไม่สามารถบอกชื่อหรือนามสกุลของแกได้ บางที..." หล่อนไม่อาจพูดได้จบประโยค เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าอเล็กซิสโตพอที่จะบอกชื่อหรือนามสกุลของตนเองได้ เอ๊ดวินาเกือบจะสิ้นหวังที่จะได้พบอเล็กซิสเสียแล้ว ในยามบ่ายหล่อนไปเดินเล่นอยู่ที่ดาดฟ้าเรือตามลำพัง พยายามจะไม่คิดถึงเหตุการณ์บนเรือ 'ไททานิค' ไม่นึกถึงการหายสาบสูญอย่างไร้ร่องรอยของครอบครัวของหล่อนที่เหลืออยู่ หล่อนเอาแต่เหม่อมองไปที่ขอบฟ้าอย่างไร้จุดหมาย ไม่ยอมมองต่ำลงไปในท้องทะเลอีกต่อไป

อีกสักหลายนาทีหล่อนจึงลดสายตาลงต่ำ มองไปยังกลุ่มผู้คนซึ่งส่วนมากเป็นหญิงและเด็กที่พากันออกมาเดินเล่นเช่นเดียวกับหล่อน มิสเซเรพีคา สาวใช้ของมิสซิสคาร์เตอร์มีเด็กอยู่ในความดูแล สองสามคน คนหนึ่งคือลูซิลล์ และอีกคนหนึ่งคือมาสเตอร์วิลเลี่ยม หน้าตาของเด็กทั้งสองรวมทั้งพี่เลี้ยงยังคงมีแววตื่นตระหนก และซีดเซียวหม่นหมองเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ส่วนเด็กคนที่สามเอ๊ดวินามองเห็นไม่ถนัดนั้นยืนแอบอยู่ข้างหลังพี่เลี้ยง มือเล็กๆ เกาะอยู่ที่ชายกระโปรงของหล่อนตลอดเวลา

เอ๊ดวินากำลังจะละสายตาจากคนกลุ่มนั้นเมื่อเด็กคนที่สามหันหน้ามา!!!!




หล่อนเบิกตาโพลง อ้าปากเหมือนจะร้องกรี๊ดออกมาหากทว่าไม่มีเสียงหลุดออกมาจากลำคอ หล่อนวิ่งผวาไปยังร่างของเด็กน้อยอุ้มขึ้นมาแนบอกแล้วกอดจูบเป็นพัลวันทั้งน้ำตานองหน้า หัวใจเต้นรัวเหมือนจะแตกด้วยความปิติยินดีอันล้นพ้น

อเล็กซิส...หล่อนพบอเล็กซิสแล้วอย่างไม่คาดฝัน!!

เอ๊ดวินากอดน้องแน่นขึ้น เด็กหญิงยังไม่เอ่ยปากทักทายหรือแม้แต่ร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ กลับซบนิ่งอยู่กับไหล่บอบบางของพี่สาวอย่างเงียบกริบผิดสังเกต หญิงสาวยกมือลูบผมสีทองอยู่ไปมา มิสซีเรพีคาพยายามอธิบายวนไปวกมาจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง หล่อนเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยกับภาพที่เห็นตรงหน้า

"เราอยู่ในเรือกู้ภัยลำที่สี่ค่ะ ...แล้วใครก็ไม่รู้อุ้มเด็กผมทองคนนี้โยนลงมามีคนรับเอาไว้ได้...แหมเคราะห์ดีจริงจริ๊งที่ไม่พลัดตกลงไปในน้ำ...แกลงมาคนเดียวนะคะ ไม่มีพี่น้องพ่อแม่เลย คุณผู้หญิงของดิฉันจึงสั่งให้ดิฉันดูแลแกด้วย จนกว่าจะถึงนิวยอร์คบางทีผู้ปกครอง...โอ ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าที่แท้แล้วญาติของหนูคนนี้ก็อยู่ในเรือลำนี้เอง..."

"งั้นหรือคะ...ขอบคุณมาก..." เอ๊ดวินาพึมพำ "แกเป็นน้องของฉันเองค่ะ"

"แกน่ารักมาก..." มิสซีเรพีคาพูดต่อไป แต่แล้วกลับทำหน้าเศร้า "แต่คุณทราบไหมคะ แกไม่พูด...ตั้งแต่ถูกโยนลงมาในเรือแกไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ถามชื่อถามอะไรก็ไม่ตอบ เอาแต่นิ่งเงียบอยู่ยังงี้แหละ แล้วนี่คุณแม่ของคุณอยู่ไหนคะ ถ้าได้มาพบ...มาปลอบโยนกัน..."

เอ๊ดวินาใจหายวาบเมื่อได้ยินคำถามนั้น หล่อนเหลียวไปรอบๆ แล้วหันกลับมาสั่นศีรษะกับสาวใช้ของมาดามคาร์เตอร์อย่างเศร้าๆ อเล็กซีสยกศีรษะเล็กๆ ขึ้นจากไหล่ของพี่สาวเมื่อได้ยินคำว่า 'คุณแม่' เอ๊ดวินากอดน้องแน่นแล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากเบาๆ

"คุณแม่ไม่ได้อยู่ที่นี่จ๊ะ..." หล่อนพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

อเล็กซิสทำหน้าเบ้เหมือนจะส่งเสียงร้องไห้ออกมา หล่อนดิ้นรนจะหนีให้พ้นจากอ้อมแขนที่กอดไว้แน่น แต่เอ๊ดวินาไม่ยอมให้ทำเช่นนั้น ตั้งใจว่าจะไม่มีวันยอมให้อเล็กซิสพ้นไปจากสายตาอีกเป็นอันขาด หล่อนหันไปพูดจาขอบใจมิสซีเรพีคาแล้วให้สัญญาว่าจะตามหาตัวมาดามคาร์เตอร์ผู้ใจดีให้พบเพื่อบอกเล่าว่าอเล็กซิสได้พบกับพี่น้องพร้อมหน้ากันแล้ว




หล่อนอุ้มน้องน้อยเข้าไปในห้องโถงใหญ่ปลอบโยนด้วยคำพูดที่ให้กำลังใจตลอดเวลา โดยที่ไม่เซ้าซี้ให้เด็กหญิงตอบโต้

"สวีทฮาร์ต พี่รักหนูมาก...พี่คิดถึงหนูมาก...ดีใจไหมจ๊ะที่จะได้พบพี่อีกประเดี๋ยวหนูจะได้พบหมดทุกคนเลย...พี่ฟิลลิป พี่จอร์จี้ น้องแฟนนี่แล้วก็น้องเท็ดดี้ด้วย..." หล่อนพร่ำพูดไป ร้องไห้ไป พบอเล็กซิสแล้ว นั่นเป็นเรื่องที่ดีวิเศษราวกับได้รับของขวัญจากสวรรค์ แต่คนอื่นเล่า...คุณพ่อคุณแม่ แล้วก็...ชาร์ลส์

เอ๊ดวินาส่ง 'คุณนายโธมัส' ให้อเล็กซิส เด็กหญิงเบิกตาโพลงเอื้อมมือมาดึงตุ๊กตาตัวโปรดไปกอดไว้ในวงแขนอย่างหวงแหน หล่อนไม่ยอมพูดจาทักทายใครทั้งสิ้น ได้แต่มองดูพี่ๆ น้องๆ ด้วยดวงตาเบิกกว้างแล้วแลเหลียวไปรอบๆ ตลอดเวลา ฟิลลิปร้องไห้เมื่อเห็นท่าทางของน้อง เขาย่อมเข้าใจดีว่าอเล็กซิสชะเง้อชะแง้มองหามารดา แต่ผู้ที่อเล็กซิสโผผวาเข้าหาอย่างเต็มอกเต็มใจและตื่นเต้นยินดีอย่างเงียบๆ คือจอร์ช...

"จอร์จี้...หนู...หนูอยากหาคุณแม่..." เด็กหญิงพูดเสียงขาดเป็นห้วงๆ ดวงตาสีเงินมีน้ำตาคลอหน่วยจ้องอยู่ที่ใบหน้าของพี่ชาย จอร์ชกอดน้องไว้ เขาเองก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อได้ยินคำพูดที่ตรงใจคิดของตัวเอง

"พี่ก็เหมือนกัน..." เขากระซิบตอบ "พี่ก็อยากหาคุณแม่กับคุณพ่อ..." เขากอดน้องไว้ ปลอบให้หายร้องไห้แล้วนอนหลับด้วยความหวังว่าเมื่อตื่นขึ้นมาอาจจะได้ข่าวดี สองพี่น้องนอนกอดกันจนหลับสนิท แม้จะเพ้อฝันไปบ้างตามประสาเด็ก แต่ก็ไม่ใช่ฝันดีแน่นอน วิญญาณของเค้ต วินฟิลด์จะล่วงรู้บ้างหรือไม่หนอ ว่าลูกๆ ที่เธอทอดทิ้งไว้ในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้กำลังคิดถึงคนึงหาเธอเป็นที่สุด พวกเขาไม่รู้จะไปตามเธอได้ที่ไหน ในเมื่อเธอลาจากเขาไปเสียแล้วยังอีกโลกหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นโลกใหม่ที่ไร้กาลเวลา อาจจะไร้ถึงสำนึกแห่งความห่วงหาอาทรถึงหกชีวิตน้อยๆ ที่เธอละทิ้งไว้ให้เผชิญกับชะตากรรมของแต่ละคนไปตามครรลองของชีวิตในอนาคต...


ดูเพิ่มเติมได้ที่

ทะเลน้ำตา

แวะดูเล่มอื่นๆ ได้ที่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น